ทัวร์ภูฏาน BHUTAN Land of the Thunder Dragon

6 วัน
ม.ค.-ธ.ค.68
Drukair (KB)
89,900 บาท/ ท่าน (กรุ๊ปเล็ก 2 ท่านขึ้นไป)

รายละเอียดเพิ่มเติม

  • ประเภททัวร์:
  • ประเทศหลัก:
  • ช่วงเวลาเดินทาง:
    ม.ค.-ธ.ค.68
  • สายการบิน:
    Drukair (KB)
  • วัน:
    6
  • ราคาแพ็คเกจ:
    89,900 บาท/ ท่าน (กรุ๊ปเล็ก 2 ท่านขึ้นไป)

รายละเอียดการเดินทาง

กรุงเทพฯ - พาโร - ชูซอม - ทิมพู
  • 03.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบิน Drukair (KB) เจ้าหน้าที่จากบริษัท จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
  • 05.00 น. ออกเดินทางสู่ เมืองพาโร ประเทศภูฏาน โดย สายการบิน Drukair (KB) เที่ยวบินที่ KB 153
  • 07.15 น. (เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง เมืองพาโร (Paro) ประเทศภูฏาน หลังผ่านพิธีการทางศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิมพู (Thimphu) เป็นเมืองหลวงของประเทศภูฏาน และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศภูฏาน ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ
  • ระหว่างทางให้ท่านแวะชม สะพานโซ่เหล็กแห่งทัมชอก (Iron Chain Bridge at Tamchog)เป็นสะพานโซ่แบบดั้งเดิมที่สร้างสรรค์ด้วยศิลปะโบราณ มอบวิวภูเขาและแม่น้ำที่งดงาม ที่นี่เป็นจุดชมธรรมชาติที่สงบและน่าประทับใจ อิสระให้ท่านเดินชมพร้อมเก็บภาพบรรยากาศ
  • จากนั้นแวะพักถ่ายรูปที่ เมืองชูซอม (Chuzom) ที่นี่เป็นจุดบรรจบครองแม่น้ำสามสาย สร้างทิวทัศน์ที่งดงาม โดดเด่นด้วยสะพานแบบดั้งเดิมและสถูปโบราณที่แสดงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศแบบธรรมชาติและชมความงดงามของภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์
    และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ
  • ชมวัดเก่าแก่ในทิมพู (Changangkha Lhakhang) เป็นวัดเก่าแก่ในทิมพู สร้างในศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บนเนินเขา มีวิวทิวทัศน์สวยงามของเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมภูฏานดั้งเดิม ภายในมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และภาพจิตรกรรมฝาผนัง ชาวท้องถิ่นนิยมมาขอพรให้ลูกแรกเกิด นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสวัฒนธรรมและความเชื่อของภูฏานได้ที่นี่
  • รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารพื้นเมือง
  • จากนั้นเดินทางไปกสักการะ องค์หลวงพ่อสัจจธรรม (Buddha Dordenma) องค์หลวงพ่อสัจจธรรมนี้ เป็นพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก โดยเศรษฐีชาวสิงคโปร์ได้ร่วมบริจาคเงินซื้อที่ดินและสร้างพระพุทธรูปให้แก่รัฐบาลภูฏาน ซึ่งบริเวณฐานองค์พระพุทธรูปเป็นอุโบสถ สามารถเข้าชมด้านในได้ โดยจุดนี้จะได้เห็นวิวเมืองทิมพูแบบ 360 องศา 
  • จากนั้นเดินทางไปยัง ที่ทำการไปรษณีย์ในทิมพู ที่ทำการไปรษณีย์ในทิมพู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองทิมพู โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของการส่งจดหมาย ภายในที่ทำการไปรษณีย์ยังมีนิทรรศการแสดงประวัติศาสตร์ของแสตมป์ภูฏาน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในความงดงามและคุณภาพของการออกแบบ นอกจากนี้ยังมีร้านขายสินค้าที่ระลึกที่จำหน่ายแสตมป์และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
  • นำท่านชม ทิมพูซอง (Thimphu Dzong) หรือ ตาชิโชซอง (Tashicho Dzong) *สามารถเข้าชมได้หลังเวลา 17.00 น.* ป้อมปราการนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1216 และมีการซ่อมแซมหลายครั้งเพราะทั้งถูกไฟไหม้และแผ่นดินไหว ซึ่งมีการบูรณะโดยกษัตริย์ ตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและศาสนาของภูฏาน ซึ่งนอกจากเป็นป้อมปราการแล้วยังเป็นอารามหลวงสำหรับพระอีกด้วย โดยปัจจุบันนี้เป็น เหมือนศาลาการจังหวัด ที่ตั้งของสำนักพระราชวัง ที่ทำงานของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี จากที่นี่ท่านสามารถมองเห็นทำเนียบรัฐบาลตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามและนอกจากนั้นจะได้เห็นที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน รัชกาลที่ 5 
  •   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารภายในโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Hotel Phuntsho Pelri
เซี่ยงไฮ้ - ซ่างเหรา (รถไฟความเร็วสูงชั้นที่2) ล่องเรือชมแสงสีอวู้นี่โจว ทิมพู - โดชูลาพาส - กังเต
  •     รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หุบเขากังเต (Gangtey) ตั้งอยู่ในหุบเขา Phobjikha เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามและสงบที่สุดในภูฏาน แวะชม จุดชมวิวโดชูลาพาส (Dochula Pass) (23 กิโลเมตร) ที่นี่มี สถูปแห่งชัยชนะ 108 สถูป ตั้งอยู่บนเนินที่ความสูง 3,150 เมตรจากระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นเพื่อเป็นสิริมงคล ปกป้องคุ้มครองผู้ที่เดินทางไปมาให้ปลอดภัย ถ้าวันไหนฟ้าเปิด อากาศดี จะมีโอกาสได้ชมความงามของเทือกเขาหิมาลัยจากจุดนี้อีกด้วย
  • อิสระท่านแวะพัก ณ Druk Wangyel café ตั้งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมมีตัวเลือกหลากหลายพร้อมขนมอบสดใหม่
  • จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง วัดชิมิลาคัง ตั้งอยู่บนยอดเนินในหุบเขาโลบุรี ทางตอนกลางของภูฏาน เป็นสถานที่อันมีเสน่ห์และเปี่ยมด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ โดดเด่นด้วยศิลปะแบบภูฏานและทิวทัศน์อันงดงาม วัดนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางผ่านทุ่งนาและหมู่บ้านท้องถิ่นเพื่อไปถึงวัด ซึ่งตลอดเส้นทางจะพบกับภาพวาดและสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ สามารถเยี่ยมชมห้องวิหารที่เป็นศิลปะที่งดงามทางศาสนา
  •    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • จากนั้นเดิงทางไปยังที่พัก เมืองกังเต (Gangtey) (74 กิโลเมตร)
  •  เข้าโรงแรม Gangtey Tent Resort อิสระท่านพักผ่อนภายในที่พัก
  •    รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
กังเต - ศูนย์อนุรักษ์นกกระเรียนคอสีดำ - วัดกังเต - พูนาคา
  •    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ศูนย์อนุรักษ์นกกระเรียนคอสีดำ (Black Necked Crane Centre)  *ศูนย์อนุรักษ์นกกระเรียนคอสีดำ จะสามารถมาชมได้ เฉพาะช่วงเดือน ตุลาคม - กุมภาพันธ์ เท่านั้น* ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่นกกระเรียนคอสีดำมีความสำคัญอย่างมากในภูมิภาคฮิมาลายา โดยเฉพาะที่ประเทศภูฏาน ศูนย์นี้มีการจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับนกกระเรียนคอสีดำผ่านวิดีโอ แผ่นพับ และการนำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับนกเหล่านี้ โดยลูกค้ายังสามารถชมความงามของนกนี้ในพื้นที่ ฟอบจิกา (Phobjikha) ทุ่งหญ้าผืนใหญ่ในหุบเขากังเต ได้อีกด้วย
  • จากนั้นนำท่านไปยัง วัดกังเต (Gangtey Monastery) หรือที่เรียกในภาษาท้องถิ่นว่า "กังเต กอมปา" (Gangtey Goemba) เป็นศูนย์กลางของ นิกายนิงมาปา (Nyingmapa) ซึ่งเป็นหนึ่งในนิกายหลักของพุทธศาสนาในภูฏาน และยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนสอนพระธรรม วัดนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยพระลามะ Gyalse Pema Thinley ซึ่งเป็นหลานของนักบุญ Pema Lingpa ผู้มีชื่อเสียง สถาปัตยกรรมของวัดมีความโดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างรูปแบบดั้งเดิมของภูฏานกับศิลปะทิเบต ภายในประดับด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังและรูปปั้นที่งดงาม
  • รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
  • จากนั้นนำท่านไปยัง พูนาคา (Punakha) เป็นเมืองหลวงเก่าของภูฏาน ตั้งอยู่ในหุบเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
  • เข้าชม พูนาคาซอง (Punakha Dzong) เป็นป้อมปราการและวัดที่สำคัญตั้งอยู่ในเมืองพูนาคาของภูฏาน สร้างขึ้นในปี 1637-1638 มีทิวทัศน์ที่งดงามและเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างมาก ในอดีต เคยเป็นทั้งที่พำนักของเหล่าผู้นำศาสนาและทางการเมืองรวมทั้งเป็นสถานที่ที่มีพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์ภูฏานองค์แรก นำท่านชมสถาปัตยกรรมของพูนาคาซองสมบัติล้ำค่าทางศาสนาและวัฒนธรรม ภายในมีห้องต่างๆ ที่ประดับประดาด้วยศิลปะดั้งเดิม
  •    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • รับประทานอาหารค่ำ ภายในรีสอร์ท
  • นำท่านเข้าสู่ที่พัก Zhingkham Resort
พูนาคา -ทิมพู - ชมเมือง - พาโร
  •    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านกลับสู่ ทิมพู (Thimphu) (72 กิโลเมตร)
  • **** พิเศษ **** (ชุดพื้นเมืองภูฏาน) จัดเตรียมให้ สมาชิกทุกท่านได้ใส่ชมเมือง ถ่ายรูป เก็บภาพบรรยากาศการท่องเที่ยวสไตล์คนท้องถิ่นกันตามอัธยาศัย
  • นำท่านขม อนุสรณ์สถานแห่งชาติชอร์เตน (Chorten) เป็นสถูปที่ พระเจ้า จิกมี ดอร์จี วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 3 ที่ปกครองภูฏาน และทรงได้รับพระฉายาว่า “พระบิดาแห่งภูฏานยุคใหม่” (King of Merdernization) มีพระประสงค์จะสร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา รวมถึงเก็บรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือล้ำค่าอยู่ภายใน ทั้งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า อัฐิของพระอรหันต์และพระอริยะสงฆ์
  •   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง พาโร (Paro) เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญและสวยงามที่สุดของภูฏาน ตั้งอยู่ในหุบเขาพาโร ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาสูงและมีทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองนี้เป็นที่รู้จักในฐานะประตูสู่ภูฏานเนื่องจากสนามบินนานาชาติภูฏานที่ตั้งอยู่ในพาโร เป็นสนามบินนานาชาติแห่งเดียวของประเทศและมีชื่อเสียงจากการลงจอดที่ท้าทายและทิวทัศน์ที่สวยงาม
  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  •  จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Olatang Cottage  หรือเทียบเท่า
พาโร - วัดทักซัง
  •    รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดทักซัง (Taktsang Monastery) วัดถ้ำพยัคฆ์เหิร หรือ “ทักซัง” เป็นมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ที่องค์กูรูปัทมสัมภวะได้เดินทางมาบำเพ็ญภาวนาและเจริญสมาธิอยู่ในถ้ำบนชะง่อนเขา ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 และท่านก็ยังเป็นผู้นำเอาศาสนาพุทธเข้ามาเผยแผ่ยังดินแดนแห่งนี้ ตามความเชื่อของชาวภูฏานกล่าวว่า ท่านได้เหาะมาบนหลังเสือตัวเมีย มายังหน้าผาแห่งนี้เพื่อทำวิปัสนากรรมฐาน จึงได้ชื่อว่า ถ้ำเสือ (Tiger Nest) หลังจากที่สำเร็จสมาธิแล้ว ท่านจึงได้สร้างศาสนสถานแห่งนี้ขึ้น ชาวภูฏานมี ความเชื่อว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องได้ขึ้นมาแสวงบุญ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเจริญก้าวหน้าของชีวิต 
  • **การเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ วิธีการขึ้นมี 2 วิธีให้เลือก** คือ เดินเท้า หรือ ขี่ม้า ซึ่งม้าที่ใช้จะเป็นม้าตัวเล็ก หรือการเดินเท้าขึ้นจะใช้เวลาเดินประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าท่านใดพอมีทักษะด้านการที่ม้า หรืออยากผจญภัย จะต้องเสียค่าม้าเพิ่มเติม ซึ่งม้าจะไปหยุดที่จุดพักเพียงครึ่งทางเท่านั้น ***ยังไม่รวมค่าทิปคนดูแลม้า***
    สำหรับการเดิน เส้นทางเป็นเนินเขาและมีหน้าผาสูงชันราว 3,000 เมตรจากด้านล่าง แนะนำให้ทุกท่านค่อยๆ เดินขึ้นขึ้นไปช้าๆ ราว 2 ชั่วโมง จะถึงจุกพักครึ่งทาง พักดื่มน้ำชา กาแฟ จากนั้นเดินทางต่ออีกราว 1 ชั่วโมง ก็จะถึงสุดทางดินลูกรัง สุดท้าย จากนั้นเส้นทางจะเปลี่ยนเป็นบันโดขึ้น-ลงประมาณ 700 ชั้น สู่ยังวัดทักซัง ด้านในทุกท่านจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมความงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้างอย่างวิจิตร
  • รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคารด้านบนระหว่างทางขึ้นทักซัง
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พาโรสตรีท (Paro street) อิสระให้ท่านเดินเล่น ช้อปปิ้ง ซื้อของฝาก ของที่ระลึก
  • รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
  • จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Olatang Cottage (พักคืนที่ 2)
พาโร - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูฏาน - พาโรริงปูซอง - สนามบิน
  •   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติภูฏาน ในอดีตเคยเป็น หอสังเกตการณ์ หรือ (ตา ซอง) Ta Dzong ให้แก่ พาโร ริงปุง ซอง แต่ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1968 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่เก็บรวมรวมภาพพระบฏ อาวุธ เหรียญกษาปณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ไม้สอย รวมถึงตราไปรษณีย์เก่าแก่มากมาย
  • ได้เวลาสมควร จากนั่นนำท่านไปยัง พาโรริงปูซอง หรือ พาโรซอง ซอง ภาษาภูฏาน แปลว่า ป้อมปราการ ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1646 โดยท่านซับดุง งาวัง นัมเกล พระอริยสงฆ์ พาโรซอง สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู แต่ปัจจุบันได้เป็นสถานที่ทางานของรัฐบาลแล้วค่ะ และตอนนี้เป็นที่ตั้งขององค์กรบริหารสงฆ์ประจาเขตปกครองนั้นๆ
  • รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
  • จนได้เวลาอันสมควร จากนั้นนำท่านเดินลงจากเขามุ่งหน้าสู่ วัดคิชู ลาคัง (Kyichu Lhakhang)
  • 16.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดย สายการบิน Drukair (KB) เที่ยวบินที่ 22.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ…