ทัวร์เอเชียกลาง คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน อุซเบกิสถาน
159,800 บาท/ ท่าน (กรุ๊ปเล็กรับจำนวนจำกัด)
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
ประเภททัวร์:
-
ประเทศหลัก:
-
ช่วงเวลาเดินทาง:8 - 18 เม.ย. 68
-
สายการบิน:uzbekistan airways
-
วัน:11
-
ราคาแพ็คเกจ:159,800 บาท/ ท่าน (กรุ๊ปเล็กรับจำนวนจำกัด)
รายละเอียดการเดินทาง
วันอังคาร ที่ 8 เมษายน 2568 กรุงเทพฯ - เมืองทาชเคนต์
-
06.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบินอุซเบกิสถานแอร์เวย์ เจ้าหน้าที่จากบริษัท จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง
-
08.10 น. เดินทางสู่ เมืองทาชเคนต์ (Tashkent) ประเทศอุซเบกิสถาน โดยสายการบิน อุซเบกิสถาน แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ HY 532
-
13.10 น. (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง) เดินทางถึง ท่าอากาศยานทาชเคนต์ ประเทศ อุซเบกิสถาน นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
-
นำท่านเที่ยวชม อนุสรณ์สถานแผ่นดินไหว (Earthquake Memorial) หรือที่เรียกกันว่า อนุสรณ์แห่งความกล้าหาญ มีลักษณะเป็นชายชาว อุซเบกปกป้องผู้หญิงและเด็กจากดินที่แตกออกต่อหน้าพวกเขา ภาพนูนจากหินแกรนิตเป็นภาพการสร้างใหม่ ปัจจุบันอนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นตัวแทนของความสงบสุขและความเงียบสงบในเมืองหลวงแห่งแสงอาทิตย์ จัตุรัสโดยรอบเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเดินเล่นของชาวเมืองทาชเคนต์ อิสระให้ท่านถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ
-
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม จัตุรัสอิสรภาพทาชเคนต์ (Independence Square) เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวทาชเคนต์ น้ำพุที่สวยงามที่สุดของเมืองตั้งอยู่ในจัตุรัสแห่งนี้ทำให้จัตุรัสแห่งนี้กลายเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม เป็นสถานที่จัดงานสำคัญในวันสำคัญต่างๆ เช่น วันประกาศอิสรภาพของอุซเบกิสถาน และวันปีใหม่ โดยขะมีการจัดการแสดงของนักดนตรี ตัวตลก
-
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม โรงละครโอเปร่า (Theater Square) อยู่ในกลุ่มโรงละครโอเปร่าที่ดีที่สุดของโลก ที่นี่มีการแสดงทั้งเพลงคลาสสิกระดับโลกและผลงานของนักเขียนระดับชาติ โรงละครสร้างขึ้นในปี 1947 ได้กลายเป็นโรงละครโอเปร่าและบัลเลต์แห่งรัฐอุซเบก
-
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม พระราชวังของเจ้าชายโรมานอฟ (Romanov Palace) สร้างขึ้นในสไตล์ "โมเดิร์น" ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น อาคารที่สง่างามได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยกริดแกะสลัก หน้าต่างรูปทรงแปลกตา หอคอย และองค์ประกอบตกแต่งอื่นๆ ดยุคเป็นนักล่าที่กระตือรือร้น ดังนั้นทางเข้าด้านหน้าของพระราชวังส่วนตัวจึงได้รับการตกแต่งด้วยรูปปั้นกวางและสุนัขล่าสัตว์สำริด ด้านหลังอาคารมีสวนขนาดใหญ่ที่จัดแต่งโดย II Krause นักพฤกษศาสตร์และเภสัชกรชื่อดังแห่งเมืองทาชเคนต์
-
จากนั้นนำท่านเที่ยวชม จัตุรัสอามีร์ ติมูร์ (Amir Temur Square) เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองทาชเคนต์ ซึ่งตั้งชื่อตามอาเมียร์ ติมูร์ ผู้บัญชาการและผู้ก่อตั้งอาณาจักรยุคกลางอันยิ่งใหญ่ ตรงกลางมีอนุสาวรีย์ที่เป็นรูปหล่อสำริดของ อาเมียร์ ติมูร์ พร้อมเครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรพรรดิบนหลังม้า ฐานอนุสาวรีย์สลักคำขวัญอันโด่งดังของอาเมียร์ ติมูร์เป็นสี่ภาษาว่า “อำนาจอยู่ในความยุติธรรม” ผู้สร้างอนุสาวรีย์นี้คือประติมากร อิลโคม จาบบารอฟ อิสระให้ท่านได้เดินทางชมและเก็บภาพบรรยากาศกลางใจเมืองทาชเคนต์
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Wyndham Tashkent หรือเทียบเท่า
วันพุธ ที่ 9 เมษายน 2568 เมืองทาชเคนต์ - เมืองบูราคา - ป้อมปราการอาร์ค - หอคอยมีนอราอีแกลอน
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟทาชเคนต์
-
08.23 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองบูคารา (Bukhara)
-
12.29 น. เดินทางถึง เมืองบูคารา (Bukhara) เมืองโบราณอายุกว่า 2,000 ปี ของประเทศอุซเบกิสถาน ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม นับเป็นตัวอย่างความสมบูรณ์ของเมืองยุคกลางในเอเชียกลาง มีโครงสร้างแบบเมืองที่ยังคงสภาพสมบูรณ์แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น หลุมฝังศพของอิสมาอิล ซามานีอันโด่งดัง ผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมมุสลิมสมัยศตวรรษที่ 10 และโรงเรียนศาสนาจำนวนมากในศตวรรษที่ 17
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางชม ป้อมปราการอาร์ค (Ark Citadel) เป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใน เมือง บูคารา ประเทศอุซเบกิสถาน ซึ่งเดิมสร้างขึ้นและถูกยึดครองในช่วงศตวรรษที่ 5 นอกจากจะเป็นโครงสร้างทางการทหารแล้ว ในประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของป้อมปราการแห่งนี้ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของราชสำนักต่างๆ ที่มีอิทธิพลเหนือพื้นที่โดยรอบ นำท่านถ่ายภาพบรรยากาศโดยรอบ ชมความงามของสิ่งก่อสร้างที่ยังคงหลงเหลือความงามอยู่ในที่แห่งนี้
-
-
จากนั้นนำท่านชม หอคอยมีนอราอีแกลอน (Kalon Minaret) หอคอยแห่งนี้เป็น ได้รับฉายาว่า เป็นอาคารที่สูงที่สุดในเอเชียกลาง ซึ้งคำว่า Kalon แปลว่า "ยิ่งใหญ่" ในภาษาทาจิกิสถาน มีความสูงที่น่าทึ่งถึง สูง 47 เมตร ตั้งเด่นและสง่างามแบบนี้มาตั้งแต่ยุคของเจงกีส (เจงกิส) ข่าน ถือว่าเป็นหอคอยที่เป็นผลงามชิ้นเอกทางสถาปัตยากรรมของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ หอคอยแห่งนี้ถือว่าเป็นการใช้งานของกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินเป็นครั้งแรกในเอเชียกลาง ในยุคของ Timurids
-
จากนั้นนำท่านชม มัสยิดโบโล-เฮาซ์ (Bolo Hauz) สร้างขึ้นในปี 1712 และเป็นหนึ่งในอาคารสุดท้ายที่สร้างขึ้นก่อนยุคสมัยใหม่ อาคารแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นมัสยิดในวันศุกร์ และประมุขแห่งบูคารามักจะไปสวดมนต์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาก็เป็นคนธรรมดาเช่นกัน ท่านจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงาม และยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของความเก่าแก่ของเมืองอยู่
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Mercure Bukhara Old Town หรือเทียบเท่า
วันพฤหัสบดี ที่ 10 เมษายน 2568 เมืองบูราคา - ไลบี เฮาซ์ - มัสยิดชอร์มิเนอร์ - ตลาดโดม - เมืองซามาร์กันต์
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
หลังจากนั้นนำท่านชม ไลบี-เฮาซ์ (Lyabi Hauz) อาคารแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเมืองบูคาราที่มี ชื่อเสียงและอายุ 3,000 ปี การตกแต่งอย่างหรูหราทั้งภายในและภายนอกด้วยกระเบื้องสีสันสดใสในโทนสีฟ้า สีเขียว และสีทองที่มองแล้วชวนให้หลงไหลไปกับบรรยากาศและศิลปะที่งดงาม ในปัจจุบันเป็นสถานที่ยอดนิยมในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ซึ้งจะมานั่งทานอาหาร จิบชา หรือเป็นที่นัดพบประสังสรรคกันของคนท้องถิ่น ท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวพื้นเมืองและชมสถาปัตยกรรมที่มีความสวยงามโดนเด่นเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่งของเมือง
-
หลังจากนั้นนำท่านชม หอคอยมินาเรต กุตลูก ติมูร์ (Magoki Attori mosque) หอคอยนี้ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ แม้จะผ่านสภาพอากาศ แผ่นดินไหว และการบุกรุกเมืองมาหลายร้อยปี ปัจจุบันองค์ประกอบการตกแต่งที่สำคัญคือแถบอิฐ 6 แถบที่พันรอบหอคอย นอกจากนี้ยังมีจารึกคูฟิกพร้อมข้อพระคัมภีร์กุรอาน อยู่ตามแถบเหล่านี้ ความสูงของโครงสร้างเป็นการออกแบบที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง อิสระท่านให้ท่านได้ถ่ายภาพและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแห่งนี้
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางชม มัสยิดชอร์มิเนอร์ (Chor Minor Mosque)อาคารนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่โล่ง ด้านหลังLabi-House การก่อสร้างโรงเรียนสอนศาสนาถือว่าแปลกมาก ดังนั้น Chor-Minor จึงถือเป็นเพียงประตูของโรงเรียนสอนศาสนาที่สูญหายไปเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดีๆ คุณจะเห็นว่า Chor-Minor เป็นกลุ่มอาคารที่มีหน้าที่อย่างน้อย 2 อย่าง คือ พิธีกรรมและที่อยู่อาศัย อาคารหลักที่มีหอคอยเป็นมัสยิด แม้จะมีโครงสร้างที่ไม่ธรรมดา แต่ภายในมัสยิดกลับดูธรรมดา ผู้คนมักประกอบพิธีกรรมต่างๆ
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางชม ตลาดโดม บูคารา (Trade Domes) เป็นตลาดสดท้องถิ่น ที่มีลักษณะเป็นโดมทรงกลม จะมีร้านค้ามากมายให้ท่านได้เลือกชม อาทิเช่น เครื่องประดับ เครื่องดนตรี และของที่ระลึกต่างๆ ของพื้นเมือง ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง เครื่องเทศ ในเมื่อก่อนร้านค้าเหล่านี้จะขายหนังสือ โดมการค้านี้จึงถูกเรียกว่า Kitab-Furushon (คำว่า "kitab" ในภาษาอุซเบกแปลว่า "หนังสือ") ต่อมาสถานที่ขายหนังสือก็ถูกครอบครองโดยร้านค้าที่ขายหมวก และต่อมาก็กลายเป็นร้านขายหมวกแทน ต่อมาจึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ระลึกที่ทำโดยช่างฝีมือท้องถิ่น
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สถานีรถไฟบูคารา
-
15.50 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองซามาร์กันต์ (Samarkand)
-
17.30 น. เดินทางถึง เมืองซามาร์กันต์ เมืองซามาร์กันด์ เป็นนครทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอุซเบกิสถานและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการอยู่อาศัยต่อเนื่องเก่าแก่ที่สุดในเอเชียกลาง ปรากฏหลักฐานว่ามีการตั้งรกรากของมนุษย์ตั้งแต่ยุคหินเก่าตอนปลาย ซามาร์กันต์เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในฐานะเมืองบนเส้นทางสายไหมเชื่อมต่อจีนกับเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งในเวลานั้นซามาร์กันต์เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียกลาง
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Kosh Havuz boutique hotel หรือเทียบเท่า
วันศุกร์ ที่ 11 เมษายน 2568 เมืองซามาร์กันต์ - สุสานกูร อี อามีร์ - จัตุรัสเรกิสถาน - มัสยิดบีบี คานุม - เมืองทาชเคนต์
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
-
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สุสานกูร-อี-อามีร์ (Guri Amir) ผู้พิชิตชาวเติร์ก-มองโกล ใน Samarkand ประเทศอุซเบกิสถาน สถานที่ ที่สำคัญในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมแห่งเอเชียกลาง ซึ่งสร้างโดยชาวอินเดียนของติมูร์ ผู้สืบเชื้อสายมาจากชาวทูร์โก-มองโกล ซึ่งได้รับวัฒนธรรมอินเดียและได้รับอิทธิพลจากเอเชียกลาง สุสานนี้ได้รับการบูรณะอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลาที่ยังดำรงอยู่ ท่านได้ได้พบกับความงามของกระเบื้องโมเสก ที่ประดับตกแต่งได้งามวิจิตรา
-
จากนั้นนำท่านเดินทางชม จัตุรัสเรกิสถาน (Registan Square) ที่มีมัสยิด 3 แห่งตั้งอยู่โดยรอบ เป็น จัตุรัสสาธารณะที่ผู้คนมาชุมนุมกันเพื่อฟังพระราชโองการ ประกาศด้วยเสียงก้องกังวาลจากท่อทองแดงขนาดมหึมาที่เรียกว่า Dzharchis และเป็น สถานที่ประหารชีวิตในที่สาธารณะ มันถูกล้อมรอบด้วยสาม madrasahs (โรงเรียนอิสลาม) ท่านจะได้สัมผัสสถาปัตยกรรมของอิสลามที่โดดเด่น เป็นอย่างมาก จนทำให้จัตุรัสแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มัสยิดบีบี คานุม (Bibi Khanum Mosque) เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง สามารถรองรับผู้มาสักการะได้ประมาณ 10,000 คน มัสยิด Bibi Khanum ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้น Registan สร้างขึ้นจากทรัพย์สินที่ Timur ยึดครองอินเดีย ซึ่งรวมถึงช้าง 95 ตัวที่ใช้ขนวัสดุ เป็นงานสถาปัตยกรรมอันทะเยอทะยานของติมูร์ทำให้โครงสร้างนั้นหนักเกินกว่าจะรับน้ำหนักของตัวเองได้ และเริ่มพังทลายลงก่อนที่การก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์นั้นเอง อิสระให้ท่านถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ
-
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อนุสรณ์สถานอิสลาม คาริมอฟ เป็นสุสานของบิดาผู้ก่อตั้งรัฐอุซเบกิสถานและประธานาธิบดีคนแรก อิสลาม คาริมอฟ ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ติดกับมัสยิดฮาซรัตคิซร์ในซามาร์คันด์ ในระหว่างการออกแบบและการก่อสร้างสุสาน ได้มีการใช้ความเอาใจใส่เป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างจะเสริมความสมบูรณ์ให้กับมัสยิด Hazrat Khizr เท่านั้น แต่ยังรักษาภาพลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของแหล่งมรดกโลกของ UNESCO แห่งนี้ไว้ด้วย
-
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบีรถไฟเมืองซามาร์กันต์
-
17.30 น. นำท่นเดินทางสู่ เมืองทาชเคนต์ (Tashkent)
-
19.48 น. เดินทางถึง เมืองทาชเคนต์
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Wyndham Tashkent หรือเทียบเท่า
วันเสาร์ ที่ 12 เมษายน 2568 เมืองทาชเคนต์ - เมืองอัลมาตี้ - อนุสาวรีย์นักรบ - อนุสรณ์พานฟิลอฟ
-
05.00 น. จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินทาชเคนต์
-
รับประทานอาหารเช้า ณ สนามบิน (Set Box Be)
-
08.10 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัลมาตี้ (Almaty) ประเทศคาซัคสถาน โดยสายการบิน อุซเบกิสถานแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ HY 532
-
09.45 น. เดินทางถึง เมืองอัลมาตี้ (Almaty)
-
เมืองอัลมาตี เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในคาซัคสถานโดยมีประชากรมากกว่าสองล้านคน เป็นเมืองหลวงของคาซัคสถานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 ถึง พ.ศ. 2479 ต่อมารัฐบาลได้ย้ายเมืองหลวงไปที่อักโมลา (ปัจจุบันเรียกว่าอัสตานา) อัลมาตียังคงเป็นเมืองที่พัฒนาแล้วมากที่สุด และมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และวัฒนธรรมมากที่สุดในคาซัคสถาน
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
หลังจากนั้นนำท่านชม อนุสาวรีย์นักรบ (Independence Monument) หรือนักรบซากาขี่สิงโต สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของการประกาศเป็นอิสระภาพของประเทศคาซัคสถาน ในปี 1991 รอบๆ จะมีผนังที่แสดงเรื่องราวตำนาน ประวัติศาสตร์ สงคราม ชนเผ่าเร่ร่อนก่อนก่อตั้งเป็นประเทศคาซัคสถาน จัตุรัสแห่งนี้ถือเป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลแห่งชาติ ขบวนพาเหรด งานทางการ และงานกีฬาต่างๆ มีสวนสาธารณะ น้ำพุ จุดดึงดูดใจ
-
หลังจากนั้นนำท่านชม อนุสรณ์สงคราม พานฟิลอฟ (Panfilov park) อนุสรณ์สงคราม พานฟิลอฟ ที่ชาวคาซัคสถานสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงและอุทิศให้กับวีรบุรุษ Panfilov ซึ่งเป็นทหาร 28 นายของหน่วยทหารที่เคยรบเพื่อคาซัคสถาน และเคยช่วยโซเวียตรบกับนาซีในสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเป็นที่มาของชื่อ พานฟิลอร์ฟ พาร์ก , ถนนพานฟิลอร์ฟในเมือง Almaty
-
หลังจากนั้นนำท่านชม อาสนวิหารเซนคอฟ (Ascension Cathedral) อาสนวิหารเซนคอฟ เป็นอาสนวิหารออร์โธดอกซ์รัสเซีย ตั้งอยู่ในสวน Panfilovในเมืองอัลมาตีประเทศคาซัคสถาน มหาวิหารแห่งนี้สร้างเสร็จในปี 1907 สร้างขึ้นจากไม้แต่ไม่มีตะปู มีความสูง 56 เมตร และได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ไม้ที่สูงเป็นอันดับสองของโลก
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดเขียว (Green Bazaar) ตลาดแห่งนี้เป็นจุดซื้อขายที่สำคัญในอัลมาตี ปัจจุบันตลาดขายเครื่องเทศ อาหารสำเร็จรูป ผลิตผล สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ และวัตถุต่างๆ มากมาย รวมทั้งวัตถุโบราณ ให้ท่านได้เลือกช้อปฯ ในครั้งที่อัลมาตีประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เสียหายเกือบทั้งหมด แต่ได้รับการบูรณะใหม่ และรู้จักในชื่อ Kök Bazaar ปัจจุบันตลาดสดแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในอัลมาตีอีกด้วย
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โกก โทเบ (Kok Tobe) โกก โทเบ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง อัลมาตี้ เป็นเนินเขาสูงในเมือง วิธีขึ้นไปมี 2 วิธี คือขับรถขึ้นไปและนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไป ด้านบนเป็นจุดชมวิวของเมืองนี้ และมีเครื่องเล่นต่างๆ ทั้ง โรลเลอร์โคสเตอร์ ชิงช้าสวรรค์ชมวิว สวนสัตว์ พร้อมมีภัตรตาคารบนเขาสำหรับคนที่จะทานอาหารและชมวิวบนเขาลูกนี้ อิสระท่านให้ท่านได้ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศโดยรอบ และดื่มด่ำไปกับความสวยงามของจุดชมวิวแม่งเมืองอัลมาตี้แห่งนี้
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Novotel Almaty City Center Hotel หรือเทียบเท่า
วันอาทิตย์ ที่ 13 เมษยน 2568 ชารินแคนยอน - แบล็คแคนยอน - ลูนาแคนยอน - ทะเลสาบโคไซ
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ชารินแคนยอน (Charyn canyons) แบล็คแคนยอน (Black Canyon) และ ลูนา แคนยอน (Lunar canyon) (209 กิโลเมตร) นำท่านนั่งรถ 4 WD เพื่อเข้าชมแคนยอน ทั้ง3แห่ง
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
อุทยานแห่งนี้เกิดจากการผุกร่อนของหินอายุหลายล้านปี ในอดีตจากการเกิดแผ่นดินไหว ทำให้เราเห็นเป็นแคนยอนหลุมลึกแบบนี้ ตามแนวหน้าผามีตะกอนหินหลายชั้นเป็นหินทรายสีแดงตามผนังกำแพงยักษ์ โดยเขาตั้งชื่อกำแพงยักษ์นี้ว่า หุบเขาแห่งปราสาท (Valley of Castles) ด้านล่างลึกเป็นร่องทางเดินสองฝั่ง เส้นทางเดินด้านล่างเราสามารถเดินไปจนสุดแม่น้ำชาริน (Charyn River) ระยะทาง 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแม่น้ำสีฟ้าไหลมาจากเทือกเขาเทียนซาน ให้ท่านได้พักผ่อนหย่อนใจ และเพลิดเพลินไปกับความยิ่งใหญ่ของแกรนด์แคนยอนแห่งนี้
-
แบล็ค แคนยอน (Black Canyon) เป็นหุบเขาที่ลึกที่สุดในบรรดาหุบเขาแคนยอนอื่นๆ และเกิดจากแม่น้ำชาริน ซึ่งกัดเซาะหินจนเกิดเป็นหุบเขาลึกมาหลายล้านปี จุดชมวิวที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติชาลีน มีลักษณะเป็นภูเขาหินผาที่เรียงรายกันเหมือนชั้นหนังสือ จึงเรียกที่นี่ว่า Stone shelf จากวิวด้านบนเราจะมองเห็นแม่น้ำชาลีนโค้งยาว คล้ายเกือกม้า ยาวไปจนสุดสายตากันเลยทีเดียว อิสระท่านได้ถ่ายภาพ และดื่มด่ำไปกับะรรมชาตินี้
-
Moon canyon หรือ Yellow Canyon จุดถ่ายภาพระหว่างทาง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติชาลีน ที่ทำให้เราเหมือนหลุดเข้าไปอยู่บนพื้นผิวดวงจันทร์นอกโลก เป็นหุบเขาลึกเรียงรายสุดลูกหูลูกตา ดูตัวเราเล็กไปเลยเมื่อเทียบกับชั้นหินภูเขารอบๆ ความสุดยอดของธรรมชาตินี้กลายเป็นสิ่งแปลกตาให้เราแวะมาถ่ายรูปกันที่จุดนี้ หินรูปร่างแปลกตาเหล่านี้เป็นการถูกกัดกร่อนของน้ำและลม อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพเก็บความประทับใจในสถานที่แห่งนี้
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโคไซ (Kolsay Lake) (212 กิโลเมตร)
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Kolsay prestige Hotel หรือเทียบเท่า
วันจันทร์ ที่ 14 เมษายน 2568 ทะเลสาบโคไซ - เมืองคาราโคล - มัสยิดดันกาน - โบสถ์โฮลีทรินิตี้ออร์โธดอกซ์
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบ โคไซ (Kolsay Lake) (20 กิโลเมตร) ทะเลสาบโคไซ ไข่มุกของเทือกเขาเทียนซาน เป็นทะเลสาบที่มีน้ำใสเหมือนกระจกสีเขียวมรกต เห็นแนวภูเขาสะท้อนผิวน้ำชัดเจน และมีแนวต้นสนเรียงรายสลับใบไม้เปลี่ยนสี ริมทะเลสาบ ถือเป็นทะเลสาบที่เป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวคาซัคสถานเลยก็ว่าได้ ถ้าช่วงที่หนาวมากๆ ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง และในช่วงฤดูอื่นๆ สีน้ำทะเลสาบจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ และน้ำทะเลสาบจะมีความใสมากๆ ถ้าตรงบริเวณนี้ไม่มีลม น้ำจะนิ่งสะท้อนเป็นเงากระจกเลยทีเดียว ซึ่งที่ตั้งของ Kolsay lake ห่างจากเมืองอัลมาตี้เกือบ 300 กิโลเมตร
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
นำท่านชม มัสยิดดันกาน (Dungan) เป็นมัสยิด ในเมือง Karakol สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1907 ถึง 1910 โดยไม่ต้องใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นโดย Dungans ซึ่งเป็นชุมชนชาวจีนมุสลิมที่เดินทางมาถึงเมือง Karakol เพื่อหนีความรุนแรงในช่วงทศวรรษปี 1870 และ 1880 มัสยิดแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวจีน ซึ่งผสมผสานสีสันและการออกแบบแบบดั้งเดิมเข้ากับสถาปัตยกรรม สีแดง สีเขียว และสีเหลืองเป็นสีที่โดดเด่นเนื่องจากมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ในวัฒนธรรมDungan (สีแดงเพื่อการป้องกันวิญญาณชั่วร้าย สีเหลืองสำหรับความเจริญรุ่งเรือง และสีเขียวสำหรับความสุข) นอกจากนี้ยังมีมังกร ฟีนิกซ์ และกงล้อไฟ
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ โบสถ์โฮลีทรินิตี้ออร์โธดอกซ์ (Holy Trinity Cathedral) โบสถ์สไลต์รัสเซีย ที่สร้างขึ้นในปี 1869 โบสถ์ออร์โธดอกซ์เป็น โบสถ์ไม้เล็กๆ ที่เก่าแก่ แต่ดูแล้วขลังและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก หลังจากสิ้นสหภาพโซเวียต และได้รับเอกราชในปี 1991 โบสถ์ก็ได้รับการบูรณะให้กลับมารุ่งเรืองดังเช่นเดิม และยังคงรักษาเสน่ห์ไว้ได้ มีความสวยงาม มีลักษณะโดมหัวหอมสีทอง 6 โดม ในรอบๆโบสถ์มีสวนสาธารณะเล็กๆอยู่โดยรอบ เมื่อได้เข้าไปสัมผัสภายในโบสถ์แห่งนี้จะพบกับความสงบ ความสวยงาม และรูปภาพของเหล่าคนสำคัญที่ประดับตกแต่งไว้อย่างลงตัว
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Karagat Hotel หรือเทียบเท่า
วันอังคาร ที่ 28 มกราคม 2568 ภูเขากระทิงเจ็ดตัว - หมู่บ้านโบคอนบาเอโว - เมืองบิชเค้น
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ภูเขากระทิงเจ็ดตัว (Seven Bulls) ภูเขากระทิงเจ็ดตัว คือกลุ่มหินสีแดงอันอุดมสมบูรณ์ที่สุดของเขา Jeti Oguz และมีชื่อเสียงมากที่สุด การจะได้เห็นรูปร่างของวัวเจ็ดตัวนั้นเกิดขึ้นจากการจินตนาการของท่าน เป็นความงามและเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในช่องเขา Jeti Oguz นั้นเอง อิสระให้ท่านถ่ายภาพบรรยากาศที่สวยงาม
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านโบคอนบาเยโว่ เมืองโบคอนบาเอโว ซึ่งอยู่ทางฝั่งใต้ของทะเลสาบอิสสิก-คูล ชุมชนได้ใช้ชื่อโบคอนบาเอโวเพื่อเป็นการยกย่องจูมาร์ต โบคอนบาเอโว กวีชาวคีร์กีซสถาน ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันน่าทึ่งของภูมิภาคนี้ได้รับการบรรยายไว้ในสุภาษิตประจำท้องถิ่นที่ว่า “Tondun topuragy altyn” ซึ่งแปลว่า “ดินของเผ่า Ton ที่เป็นทองคำ” แม้ว่าจะมีผู้อพยพชาวรัสเซียจำนวนมากเข้ามา แต่ชนเผ่าคีร์กีซในภูมิภาคนี้ก็ยังคงรักษาประเพณีวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของตนเองไว้ได้เช่นเดียวกับในศตวรรษที่ 19 ชาวบ้านในหมู่บ้านประกอบอาชีพทำหัตถกรรมและเกษตรกรรม งาน "ซัลบูรุน" จัดขึ้นที่นี่ปีละครั้ง โดยผู้ล่าจะแข่งขันกับเหยี่ยวและนกอินทรีทองเพื่อล่าสัตว์เล็กและใหญ่ด้วยธนูและสุนัขล่าเนื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งม้า
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Novotel Bishkek City Center
หรือเทียบเท่า
วันพุธ ที่ 29 มกราคม 2568 อุทยานแห่งชาติ อาลาอาชา - เมืองบิชเคก
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
อุทยานแห่งชาติ อาลาอาชา เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดจากเมืองบิชเคก สำหรับนักปิกนิกใน ช่วงสุดสัปดาห์ นักเดินป่า นักขี่ม้านักเล่นสกีรวมถึงนักปีนเขาที่มองหาเส้นทางน้ำแข็ง หิน และเส้นทางผสมผสาน อุทยานแห่งนี้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้ว่าฤดูกาลที่นิยมมากที่สุดคือช่วงปลายฤดูร้อนและต้นฤดูใบไม้ร่วง อุทยาอาลาอาชานี้มีอากาศบริสุทธิ์และธรรมชาติที่สวยงาม
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
นำท่านชม จัตุรัสวิคตอรี (Victory Square) เป็นจัตุรัสสาธารณะในเมืองบิชเคก เมืองหลวงของคีร์กีซสถาน สร้างขึ้นเพื่อระลึกถีง การมีชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนี
-
หลังจากนั้นนำท่านชม สวนสาธารณธต้นโอ๊ก (Oak Park) เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองบิชเคก และเป็นที่ตั้งของนิทรรศการประติมากรรมกลางแจ้ง รวมถึงอนุสาวรีย์และอาคารสำคัญๆต่างๆหลายแห่ง เหตุที่เรียกสวนสาธารณะแห่งนี้ว่า Oak Park เนื่องจากว่าสวนแห่งนี้มีต้นโอ๊กที่มีอายุพอๆกับเมืองแห่งนี้เลย
-
จัตุรัสอะลาทู ตั้งอยู่ในใจกลางบิชเคก “Ala-Too” ในภาษาคีร์กีซ แปลว่า "ภูเขาอันยิ่งใหญ่" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและธรรมชาติของประเทศ และมักจะตกแต่งด้วยแสงไฟ ในวันประกาศอิสรภาพ (31 สิงหาคม) และในช่วงปีใหม่ ก็มีการจัดตกแต่งไฟไว้อย่างสวยงามเช่นกัน
-
หลังจากนั้นนำท่านชม จัตุรัสเก่าบิชเคก (Old Square) สร้างเนื่องในโอกาสครบรอบ 19 ปีของ การปฏิวัติฯ ในสมัยก่อนจัตุรัสแห่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และเป็นสถานที่จัดขบวนพาเหรดและการชุมนุมของทหารในยุคโซเวียต แต่หลังจากเปิดจัตุรัส Ala-Tooในปี 1984 จัตุรัสแห่งนี้ก็มีความสำคัญน้อยลงและไม่ค่อยมีคนใช้มากนัก ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 กลุ่มนักลงทุนเอกชนตัดสินใจปรับปรุงจัตุรัสแห่งนี้เพื่อเป็นของขวัญให้กับเมืองบิชเคก ซึ่งยังคงอนุลักษณ์ความสวยงามไว้คงเดิม
-
เป็นอาคารที่มีความสำคัญในเมืองบิชเคก และเป็นสถานที่จัดการแสดงดนตรี ตั้งชื่อตาม Toktogul Satylganov นักดนตรี ชาวคีร์กีซ อาคารปัจจุบันได้รับการออกแบบโดย A. Pechenkin และสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2523 อาคารหันหน้าไปทางศาลากลาง มี รูปปั้นของ Manas และน้ำพุอยู่ในบริเวณนั้น ฐานของรูปปั้น Manas มีรูปปั้นของ Kanykei ภรรยาของ Manas และ Bakai ที่ปรึกษาทางจิตวิญญาณของเขา รวมถึงรูปปั้นครึ่งตัวของ Manaschy ที่มีชื่อเสียง จัตุรัสแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ สถาปัตยกรรมของอาคารเป็นสไตล์บรูทัลลิสต์จากยุคโซเวียต อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศที่สวยงามแห่งนี้
-
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
-
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ โรงแรมที่พัก Novotel Bishkek City Center
หรือเทียบเท่า
วันพฤหัสบดี ที่ 30 มกราคม 2568 ตลาดสดบิชเคก - สนามบินบิชเคก - สนามบินทาชเคนต์
-
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดสดบิชเคก (Osh Bazaar) เป็นตลาดบาซาร์ ที่มีความเป็นพื้นเมืองอย่างมาก โดยในท้องตลาดจะมีร้านค้า ขายสินค้ามากมาย หลากหลาย และต่างกันออกไป จะมีเป็นของสด ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง เครื่องเทศ อาหารพื้นเมือง ของเครื่องใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นตลาดที่มีผู้คนมากมาย ทั้งคนพื้นเมืองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่มาเยือนที่เมืองบิชเคก
-
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
-
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินบิชเคก
-
19.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินทาชเคนต์
-
19.10 น. น. เดินทางถึง สนามบินทาชเคนต์
-
อิสระรับประทานอาหารค่ำ ณ สนามบิน
-
22.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามสุวรรณภูมิ ประเทศไทย
วันสุกร์ ที่ 31 มกราคม 2568 กรุงเพทฯ
-
06.40 น. เดินทางถึง สนามสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ..