P&P Holiday by Reign Inter กันยายน 2, 2023 0 Comments

ห้ามพลาด! เที่ยวยุโรป 10 พิกัดร้านอาหารชื่อดัง – Travel to Europe,10 famous restaurants.

ห้ามพลาด! เที่ยวยุโรป 10 พิกัดร้านอาหารชื่อดัง - Travel to Europe,10 famous restaurants.

          การได้ไป เที่ยวยุโรป ดินแดนสรวงสวรรค์ ที่นักท่องเที่ยวมักคิดถึงเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวซ่ะส่วนใหญ่ อย่างการสัมผัสธรรมชาติที่ตระการตา หรือการเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันงดงาม แต่สิ่งที่ทุกท่านจะพลาดไปไม่ได้ในการไป เที่ยวยุโรป อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็ คือ ร้านอาหารรสเลิศ! ดังนั้น P&P Holiday by reign inter จึงได้รวม “10 พิกัดร้านอาหารชื่อดัง”

ทำความรู้จักอาหารก่อนไป เที่ยวยุโรป

ทำความรู้จักอาหารก่อนไป เที่ยวยุโรป

          อาหารตะวันตก หรืออาหารยุโรป เป็นคำที่ใช้เรียกเมนูอาหารในประเทศในภูมิภาคทวีปยุโรปหรือกลุ่มประเทศตะวันตก ทั้งกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก และยุโรปตะวันตก นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงอาหารจากกลุ่มประเทศนอกทวีปยุโรปแต่ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากทวีปยุโรป ซึ่งได้แก่ อาหารจากประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ กลุ่มประเทศในทวีปอเมริกา เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา รวมถึงกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่นับรวมเมนูอาหารพื้นเมืองจากชนพื้นเมืองในกลุ่มประเทศนอกทวีปยุโรปที่ได้กล่าวมา

รู้ประวัติอาหารก่อนไป เที่ยวยุโรป

           การที่ได้ทราบประวัติอาหารตะวันตก ก่อนที่ทุกท่านจะเดินทางไป เที่ยวยุโรป จะทำให้การรับประทานอาหารของทุกท่านมีความสนุกมากขึ้น รากฐานของอาหารตะวันตกโดยทั่วไปนั้น ได้พัฒนามาจากอาหารฝรั่งเศส โดยทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับให้เป็นพื้นฐาน ก็คือมาจากเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสดั้งเดิมแบบทันสมัยขึ้น ของแองกัส เอสโคฟิเอ่ (Auguste Escoffier) หากท่านไหนได้มา เที่ยวยุโรป ก็อย่าลืมแวะเที่ยวที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อลิ้มรสอาหารแบบดั้งเดิม โดยสิ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คือ แม่ซอสทั้ง 5 แบบ อันได้แก่ ซอสเบชาเมล (Béchamel) ซอสเอสปานอล (Espagnole) ซอสเวลูเต้ (Velouté) ซอสฮอลแลนเดซ (Hollandaise) และซอสโตเมท (Tomate) ซึ่งแม่ซอสทั้งห้านี้ ก็ยังเป็นแม่แบบของซอสอื่น ๆ ที่พบเห็นกันในปัจจุบันอีกด้วย

ตั้งแต่ในยุคฝรั่งเศสแรกเริ่มเป็นต้นมา ครัวอาหารตะวันตกนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากการเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ ๆ จากประเทศเพื่อนบ้านในแถบยุโรป โดยเฉพาะ อิตาลี และสเปน ทำให้เกิดการรังสรรค์เมนูอาหารใหม่ ๆ ขึ้นมา เช่น พาสต้า ซึ่งหลังจากนั้นได้กลายมาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่สำคัญที่สุดของอาหารตะวันตก

รู้ลักษณะของอาหารก่อนไป เที่ยวยุโรป

           อาหารตะวันตกมีลักษณะเฉพาะตัว และมีหลายองค์ประกอบที่แตกต่างไปจากอาหารในภูมิภาคอื่น ที่เห็นได้ชัดคือจากอาหารตะวันออก หรืออาหารเอเชียตะวันออก ซึ่งอาจจำแนกลักษณะอาหารเป็นองค์ประกอบใหญ่ ๆ ได้แก่ ส่วนประกอบ รสชาติ และลักษณะการรับประทาน ใครที่ไป เที่ยวยุโรป ต้องลองกินร้านอาหารท้องถิ่นซักครั้ง

1.ส่วนประกอบของอาหารตะวันตก อาหารตะวันตกมักจะให้ความสำคัญกับเนื้อสัตว์เป็นหลัก โดยมีแป้งอย่างข้าวสาลี ข้าวบาร์ลีย์เป็นองค์ประกอบรอง นอกจากนั้น จะใช้เนย เกลือ ไขมันและสมุนไพรเพียงไม่กี่ชนิดเป็นเครื่องปรุงแทนการเน้นเครื่องเทศอย่างอาหารในภูมิภาคอื่น นอกจากนั้น เนื้อที่ใช้ยังมักจะทำเป็นเนื้อชิ้นใหญ่ เช่น สเต็ก เป็นต้น

2.รสชาติ เนื่องจากส่วนประกอบในการปรุงอาหารตะวันตกเน้นไปทางเนย ไขมัน เกลือ และสมุนไพรตะวันตกที่จะใส่เพียงไม่กี่อย่างในเมนูแต่ละจาน เช่น ใบโรสแมรี่ ใบไทม์ ใบเบซิล และไม่ได้มีการใช้และผสมผสานเครื่องเทศอย่างซับซ้อนเท่าอาหารแอฟริกาหรือเอเชีย ทำให้เมื่อเทียบกับอาหารจากภูมิภาคอื่นแล้ว หลายคนมักกล่าวว่าอาหารตะวันตกจะมีรสชาติจืดกว่า และมีความมันที่เกิดจากเนย ไขมัน นม ชีส มากกว่า

3.ลักษณะการรับประทานอาหารตะวันตก ชาวตะวันตกจะมีวัฒนธรรมการทานอาหารตะวันตกแบบเฉพาะตัว โดยใน 1 มื้อมักจะมีการรับประทานอาหารตะวันตกหลายจาน อาหารตะวันตกจะมีการทานทีละจานเป็นขั้นๆ จะไม่ได้ทานพร้อมกันทีเดียว ซึ่งการทานเช่นนี้เรียกว่าคอร์ส โดยจะเริ่มตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย ซุป อาหารจานหลัก และสุดท้ายจะเป็นของหวาน และเครื่องดื่ม ซึ่งมื้ออาหารแบบฟูลคอร์ส

10 ร้านอาหารใครไป เที่ยวยุโรป ห้ามพลาด!

           การเดินทางไปท่อง เที่ยวยุโรป หรือไปยังต่างประเทศแต่ละครั้ง สิ่งสำคัญที่เป็นอันดับต้น ๆ ในการวางแผนเลยก็คือ ร้านอาหาร เพราะหนึ่งเลยคือ เราก็ต้องแน่ใจว่าอาหารของร้านนี้ รสชาติจะถูกปากเรา เราทานได้ อยู่ได้ และสองคือ เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาหาร้าน หรือทานแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตลอดการเดินทาง

1.Mirazur ประเทศฝรั่งเศส (France)

           หากท่านไป เที่ยวยุโรป เดินทางไปยังดินแดนน้ำหอมชื่อดังที่ฝรั่งเศสในเมืองเมนตัน ณ ภัตตาคารริมทะเลสาบ และภูเขา ร้านนี้ได้รางวัล “3 Michelin Stars ปี 2019” แม้ร้านอาหารนี้จะเรียบหรูดูดี แต่ก็ได้บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนอยู่ที่บ้าน เมนูของร้านเกิดจากเชฟได้ซึมซับวัฒนธรรมของอิตาลีกับอาร์เจนติน่า เข้ากับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และสวนผักผลไม้ของเขา จึงผสมผสานสิ่งเหล่านี้เข้ากับความเป็นฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว รังสรรค์มาเป็นอาหารจานที่ดีที่สุด มีTexture และสีสันแตกต่างกันชวนให้น่าลิ้มลอง จานอร่อยที่เป็นจุดเด่น คือ Salt-crusted Beetroot with Caviar Cream

2.Steirereck ประเทศออสเตรีย (Austria)

            มาถึงออสเตรียกันบ้าง กับร้านที่ได้รับรางวัล “2 Michelin Stars” และเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดอันดับ 10 ร้านแห่งนี้นำเสนอเมนูอาหารในรูปแบบสมัยใหม่เข้ากับอาหารสไตล์ประเทศออสเตรเลีย และยุโรปสไตล์ดั้งเดิม ซึ่งมีวัตถุดิบหายากตามฤดูกาล ผสมผสานเกิดเป็นจานอาหารอันซับซ้อน และมีเอกลักษณ์ทางรสชาติ ความโดดเด่นอีกด้านหนึ่งคือ ร้านตั้งอยู่ใจกลางของสวน “Stadtpark” ในรูปทรงสมัยใหม่คล้ายพิพิธภัณฑ์ใจกลางเมืองหลวง สุดยอดเมนูที่ควรมาทานทให้ได้เลย คือ “Char & Bee Wax”

3.Burger & Lobster ประเทศอังกฤษ (England)

          ร้านชื่อดังในประเทศอังกฤษ เป็นร้านง่าย ๆ มีเมนูเพียง 4 เมนู ในราคา 20 ปอนด์ คือพวกเบอร์เกอร์ต่าง ๆ แต่ที่แนะนำสุด ๆ ก็คงหนีไม่พ้นเมนูตามชื่อร้านอย่าง Lobster Roll จะเป็นล็อบสเตอร์อบมาในขนมปังกรอบ ๆ รสชาติหวานหอม ฉ่ำ ๆ บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดจริง ๆ 

4.Maaemo ประเทศนอร์เวย์ (Norway)

           สุดยอดร้านอาหารในนอร์เวย์ ได้รางวัล “3 Michelin Stars” อยู่ในเมืองออสโล ติดอันดับ 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดเช่นกัน ภายในร้านดีไซน์ค่อนข้างทันสมัย ทำให้นักชิมเพลินไปกับชมความสวยภายในร้านจากการตกแต่งระหว่างรออาหารแสนอร่อยในแบบฉับนอร์เวย์แท้ ๆ นอกจากอาหารอร่อยแล้ว ทางร้านยังเผยถึงวัตถุดิบที่สดใหม่ การแต่งจานเหนือชั้น การนำเสนอที่เกินคาดและบริการอย่างเป็นเลิศจนยากจะหาข้อติของที่นี่ได้จริง ๆ ส่วนจานไฮไลต์ที่ต้องสั่งคือ “Norwegian Oysters” เป็นร้านที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางไปท่อง เที่ยวยุโรป ควรเก็บไว้ใน list

5.Osteria Francescana ประเทศอิตาลี (Italy)

            ในเมืองมาโดนา กับร้านอาหารเล็ก ๆ ที่คุณภาพไม่เล็กเหมือนขนาดร้านสถานที่แห่งนี้ นับว่าเป็นที่สุดของ “Fine Dinning” ได้รับรางวัล “3 Michelin Stars” และขึ้นแท่นร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกมาถึง 2 ครั้ง จานอาหารร้านนี้อยู่ภายใต้แนวคิดของอาหารร่วมสมัย สอดคล้องไปกับการตบแต่งของร้าน โดยเชฟผู้ถ่ายทอดความรู้สึกอันลึกซึ้ง ผ่านการปรุงและจัดอาหารราวกับศิลปิน เขาใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นแท้ ๆ และใช้ชีสชื่อดังของอิตาลีอย่าง “Parmigiano Reggiano” ขอเสนอเมนูจานเด็ด เป็นที่จดจำของคนทั่วโลก คือ “Oops! I dropped the lemon tart” รวมถึงจานอื่น ๆ อย่าง Adriatic Chowder, Summer tart, Insalata di mare

6.Chez Julien ประเทศฝรั่งเศส (France)

            สัมผัสความหรูหรากับร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1870 ด้านในตกแต่งด้วยสถาปัตกรรมสไตล์อาร์ตนูโว ที่เน้นกระจกบานใหญ่ ๆ และการแกะสลักขอบกำแพง และเพดาน อาหารที่นี่จะเสิร์ฟเป็นคอร์ส ไล่มาตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อยไปจนถึงของหวานในสไตล์ฝรั่งเศส ราคาเริ่มต้นที่ 26 ยูโร ซึ่งบอกเลยว่าถ้าไม่อยากพลาด แนะนำว่าควรจองล่วงหน้า เพราะร้านนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก

7.Restaurant Tim Raue ประเทศเยอรมนี (Germany)

            เปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับร้านอาหารอันดับ 1 ในเยอรมนีที่เชฟชาวเยอรมันหลงใหลในการปรุงรสชาติอาหารแบบเอเชีย และประสบความสำเร็จสูงสุดในประเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้รับรางวัล “2 Michelin Stars” อีกด้วย ร้านอาหาร Fine Dining นี้ได้ผสมผสานอาหารจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และไทยมารวมกัน รังสรรค์จนเกิดเป็นสุดยอดเมนูสุดสร้างสรรค์ เข้มข้น และมีมิติ รับรองว่าต้องถูกใจคนไทยอย่างแน่นอน เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ คือ “Wasabi Langoustine” หากใครไป เที่ยวยุโรป แล้วคิดถึงอาหารไทย ร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในร้านที่ทุกท่านไม่ควรพลาด

8.Godiva Chocolate Cafe ประเทศอังกฤษ (England)

          เที่ยวยุโรป ทั้งทีจะต้องไม่พลาดของหวาน ณ ประเทศอังกฤษ ร้านนี้ตั้งอยู่บนห้างหรู Harrod’s ที่ส่งกลิ่นหอมทันทีที่เดินผ่าน ใครจะอดใจไหวไม่แวะคงไม่ได้ ซึ่งร้านนี้นำช็อกโกแลตชื่อดังสัญชาติเบลเยี่ยมมารังสรรค์เป็นเมนูของหวานมากมาย โดยมีช็อกโกแลต Godiva แทรกตัวอยู่ในทุก ๆ เมนู เมนูที่แนะนำคือ Godiva Milk Chocolate Sin Cake และ Crepe Mikado with Vanilla Ice Cream and Warm Chocolate Sauce ที่อร่อยสุดๆ ใครเป็น Chocolatr Lover ควรปักร้านนี้ไว้

9.BELLEVUE สาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic)

          เป็นภัตตาคารอาหารที่ท่านสามารถชมทิวทัศน์ของแม่น้ำวัลทาวา และปราสาทปรากที่น่าประทับใจสมกับชื่อภัตตาคาร โดยเฉพาะในยามราตรีที่มีการประดับประดาด้วยไฟให้กับสถานที่ทั้งสองแห่งนี้  และนอกจากนี้เมนูอาหารก็ให้รสชาติอร่อยในสไตล์คอนติเนนตัลที่ประณีต มีการประดับจานที่ดูงดงามหรูหรา ส่วนใหญ่ลูกค้าประจำของภัตตาคารนี้จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของกรุงปราก และสุดยอดเมนูอาหารกับเนื้อสันในลูกวัวกับตับเป็ด ฟัวกราส์ในซอสเห็ด และกุ้งก้ามกรามทอดกรอบกับคาราเมลถั่วเหลือง พร้อมเมนูขนมหวานที่ท่านต้องประทับใจ

10.Café Kör ประเทศฮังการี (Hungary)

           Café Kör เป็นร้านอาหารฮังกาเรียนแบบต้นตำรับ ความโดดเด่นของ Café Kör นั้นต้องยกให้กับความอร่อยของเมนูอาหารที่ทำออกมาได้เลิศรส คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป พร้อมกับความหลากหลายของเมนูอาหารที่มีให้เลือกทานอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สตูว์กูลาซเนื้อสไตล์ฮังกาเรียน ซุปกูลาซ คาเวียร์ไข่ปลาเทราท์ ตับห่านบด สเต็กเนื้อนานาชนิด และอีกมากมาย เสิร์ฟมาในปริมาณจุใจแบบคนท้องถิ่นแท้ ๆ หากใครไป เที่ยวยุโรป และได้แวะไปเที่ยวฮังการี ร้านนี้ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน

สรุป เที่ยวยุโรป ห้ามพลาด 10 ร้านอาหารชื่อดัง

            ถึงอาหารยุโรปนั้น จะมีต้นกำเนิดจากประเทศฝรั่งเศสเพียงประเทศเดียว แต่ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน การพัฒนา การปรับเปลี่ยนของผู้รังสรรค์อาหาร และคนท้องถิ่น รวมถึงวัตถุดิบในการประกอบอาหารของแต่ละพื้นที่ที่มีสภาพอากาศ ลักษณะทางภูมิศาสตร์ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ทำให้ปัจจุบันอาหารของแต่ละประเทศในยุโรปไม่เหมือนกัน เราจะเห็นได้ถึงความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นของอาหารจากประเทศในแถบนอร์ดิค เช่น เดนมาร์ค นอร์เวย์ สวีเดน และฟินแลนด์ เนื่องจากประเทศเหล่านี้ได้มีการให้ความสำคัญกับวัตถุดิบอาหารที่หาได้เฉพาะตามแต่ละท้องถิ่นเท่านั้น และผู้คนในปัจจุบันยังให้ความสำคัญกับความเป็นแบบดั่งเดิม (Original) ทำให้เกิดการเดินทาง เที่ยวยุโรป เพื่อไปรับประทานอาหารแบบต้นตำหรับมากขึ้น แต่เนื่องด้วยร้านที่อร่อย และมีชื่อเสียงก็จะได้รับความนิยมอย่างมาก หากทุกท่านต้องการลองชิมอาหารเลิศรส แต่ไม่ต้องการจัดการจอง และแผนการเดินทางด้วยตนเอง ท่านสามารถติดต่อ P&P Holiday by reign inter เพื่อให้คลายความกังวลไปได้ ให้เราดูแล และอำนวยความสะดวกให้กับท่าน เที่ยวยุโรป อย่างครบวงจร